OTO ยันธุรกิจดำเนินการตามปกติ-มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง- ฐานะการเงินมั่นคงมีเงินสดในมือพร้อมลงทุนกว่า 700 ลบ.ลุยประมูลงานภาครัฐ มูลค่ากว่า 100 ลบ.
บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ยืนยันธุรกิจยังดำเนินการได้ตามปกติ มีปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง เผยปัจจุบนมีกระแสเงินสดในมือราว 700 ล้านบาท พร้อมนำไปขยายธุรกิจเพื่อต่อยอดสร้างการรับรู้รายได้ในอนาคต ล่าสุดเข้าประมูลงานโครงการภาครัฐ มูลค่าไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท คาดทราบผลเร็วๆ นี้ พร้อมขอให้มั่นใจได้บริษัทเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
นายคณาวุฒิ วรรทนชีรัช ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ถึงปัจจุบัน เกิดการปรับตัวลงของราคาหุ้นของบริษัท อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องมีความกังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงทำให้เกิดการคาดเดาถึงสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทมีการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลาอันสั้นที่ผ่านมาที่อาจสร้างความเสียหาย และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของบริษัท ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการร้องขอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอตรวจสอบรายการซื้อขายหุ้นที่มีลักษณะผิดปกติในช่วงระยะเวลาดังกล่าวแล้ว โดยหากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัทเป็นประการใดบริษัทจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
"บริษัทฯ ขอชี้แจงและขอให้ความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้น รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นของบริษัทนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกและสภาวการณ์อื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท อีกทั้งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ เลย โดยในปัจจุบัน OTO ยังดำเนินงานตามปกติ ด้วยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง โดยขณะนี้ยังมีกระแสเงินสดในบริษัทราว 700 ล้านบาท ที่สามารถนำไปใช้ในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนให้เพิ่มขึ้นในอนาคต"
เขากล่าวต่อว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการประมูลโครงการภาครัฐ ซึ่งมีมูลค่าโครงการไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาและประกาศผลผู้ชนะประมูลโครงการ ซึ่งหากมีความคืบหน้าเป็นประการใด บริษัทฯจะเรียนแจ้งให้นักลงทุนทราบทันทีในการนี้บริษัทจึงขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เชื่อมั่นว่าบริษัทเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย และบริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ดีและมีสภาพคล่องและสถานะทางการเงินเป็นปกติ